"รู้สึกตัวไว้นะ รู้สึกตัวไว้"หลักธรรมคำสอนที่สำคัญของหลวงพ่อปราโมทย์ คือ "มีสติ รู้กายรู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง” ย่อๆ คือ “รู้กาย รู้ใจ” หรือ“ดูกาย ดูจิต” โดยเบื้องต้นให้มีสติ (รู้สึกตัว) ให้เป็นก่อน ด้วยการฝึกให้จิตจำสภาวธรรมของกายของใจ จากการหัดรู้หัดดูสภาวะต่าง ๆ เช่น หัดรู้ร่างกายหายใจ ร่างกายเคลื่อนไหว รู้ทันจิตที่ไหลไปหาอารมณ์ จิตมีความสุขก็รู้ จิตมีความโลภก็รู้ จิตมีความหลงก็รู้ ฯลฯ เมื่อรู้สึกตัวได้จากการรู้ทันกายรู้ทันใจแล้ว จิตจะมีความตั้งมั่น (มีสมาธิ) มีความเป็นกลาง ซึ่งเป็นจิตที่มีคุณภาพ สามารถเห็นสภาวธรรมหรือรูปนามแสดงความเป็นไตรลักษณ์ ซึ่งเป็นการเจริญปัญญาเพื่อความรู้แจ้งอริยสัจ (พ้นทุกข์) นั่นเอง
หลักการปฏิบัติ
๑. ฆราวาสให้รักษาศีล ๕ เป็นอย่างน้อย
๒. ให้มีสติรู้ทันกายรู้ทันจิต โดยให้ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบอารมณ์ไปตามปกติ เมื่อเห็นว่ากายเป็นอย่างไร ก็แค่รู้ว่ากายเป็นอย่างนั้น เมื่อเห็นว่าจิตเป็นอย่างไร ก็แค่ว่ารู้จิตเป็นอย่างนั้น รู้ไปตามที่เป็นอยู่ ไม่แทรกแซง (ไม่จงใจกระทำอะไรเพื่อให้เกิดผลตามต้องการ) ไม่กดข่มจิต ไม่ปล่อยให้จิตเพลิดเพลินไปตามอารมณ์
๓. ให้ปฏิบัติขณะใช้ชีวิตประจำวันให้ได้ต่อเนื่องสม่ำเสมอทุกวัน
๔. ทุกวันต้องปฏิบัติในรูปแบบ เช่น สวดมนต์ เดินจงกรม นั่งสมาธิ ฯลฯ เพื่อฝึกทำความสงบบ้าง ฝึกจิตให้ตั้งมั่นบ้าง ฝึกรู้ทันจิตบ้าง ตามแต่จะเห็นสมควร
เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2495 ที่กรุงเทพมหานคร แม่พาเข้าวัดฟังธรรมตั้งแต่อายุ 3 เดือน พออายุ 7 ขวบพ่อพาท่านไปที่วัดอโศการาม มีโอกาสได้รับคำสอนเรื่องการทำสมาธิ จึงนำกลับมาปฏิบัติเองที่บ้าน และเริ่มสนใจการปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่นั้น
ช่วงวัยประถมต้นท่านเรียนที่โรงเรียนวัด ได้เห็นความประพฤติของพระสงฆ์องค์เจ้าแล้ว ไม่เลื่อมใสศรัทธา รู้สึกแปลกแยก ตั้งคำถามกับตนเองว่าพระพุทธศาสนาจริงๆ อยู่ที่ไหน
ในช่วงที่เป็นนักศึกษาอยู่ ท่านมีโอกาสได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี โดยมีหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ศึกษาธรรมในเพศพระภิกษุอยู่ช่วงระยะหนึ่งแล้วก็สึกออกมา ต่อมาเมื่อเรียนจบ ไปรับราชการ ได้ร่วมงานกับอาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ ทำให้ได้ศึกษาพระไตรปิฎกจนจบ แต่ความรู้สึกก็บอกตนเองอยู่เสมอว่าการเรียนรู้นี้ยังไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ ยังมีอะไรที่ตนไม่รู้อีกมากในพระพุทธศาสนา
จนช่วงต้นปี 2525 ท่านมีโอกาสได้อ่านคำสอน "อริยสัจจ์แห่งจิต" ของหลวงปู่ดูลย์ แล้วเกิดความศรัทธา จึงขึ้นไปกราบหลวงปู่ดูลย์ที่ จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2525 และขอฝากตัวเป็นศิษย์ของท่านตั้งแต่นั้นก็ปฏิบัติธรรมในสายพระป่าด้วยวิธีการ "ดูจิต" เรื่อยมา
ภายหลัง ได้เข้าไปสนทนาธรรมแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้คนในเว็บบอร์ดธรรมะ ด้วยชื่อ "สันตินันท์" ทำให้มีผู้คนสนใจ เฝ้าติดตามคำสอนและประสบการณ์ปฏิบัติของท่าน
เมื่อมีอายุ 49 ปี ในวันที่ 30 มิถุนายน 2544 ได้อุปสมบทครั้งที่สองที่ วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ โดยมีพระราชวรคุณ (สมศักดิ์ ปณฑิโต) เป็นพระอุปัชฌาย์
ในช่วง 5 พรรษาแรกจำพรรษาอยู่ที่สวนโพธิญาณอรัญวาสี อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พอถึงพรรษาที่ 6 ค่อยมาประจำอยู่ที่ สวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จากนั้นก็เผยแพร่หลักธรรมการดูจิตแก่ปวงชนเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
พ.ศ. 2495
นายปราโมทย์ สันตยากร เกิด
พ.ศ. 2502
ศึกษาวิธีปฏิบัติอานาปานสติตามคำสอนของท่านพ่อลี ธัมมธโร
พ.ศ. 2525
พบหลวงปู่ดูลย์ และขอฝากตัวเป็นศิษย์ ได้รับคำสอนวิธีการฝึกฝนการดูจิต
พ.ศ. 2544
อุปสมบทเป็นพระภิกษุครั้งที่ 2 (จนถึงปัจจุบัน)
พ.ศ. 2550
ได้มาประจำอยู่ที่สวนสันติธรรมและเผยแพร่ธรรมเรื่องการดูจิตอยู่เรื่อยมาถึงปัจจุบัน
คนอื่นสร้างปัญหาได้ แต่ความทุกข์เป็นสิ่งที่เราสร้างเองนะ
ถ้าเราทำตามใจตัวเอง เราจะเป็นผู้แพ้เรื่อยไป
เราอยากรู้ใจคนอื่น เราอยากให้คนอื่นรู้ใจเรา แต่แปลกมั้ยที่เราไม่อยากรู้ใจตัวเอง ?
![]() |
ทางเอก ผู้เขียน หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชฺโช |
![]() |
แด่เธอ ผู้เขียน หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชฺโช |
![]() |
วิธีแห่งความรู็แจ้ง ผู้เขียน หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชฺโช |
รายชื่อหนังสืออื่นๆของหลวงพ่อปราโมทย์ ที่สามารถโหลด online ได้
จิตตภาวนา หลวงพ่อปราโมทย์
สุภัทร์ อักษราชัยพฤกษ์